อีคอมเมิร์ซโซลูชัน จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่ช่ำชองทางเทคนิค เพื่อที่ผู้ใช้บริการจะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เราใช้โซลูชันแบบโอเพนซอร์สที่สามารถสร้างเว็บไซด์ที่ดูดี สวยงาม และดึงดูดลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่เราใช้ก็เช่น WooCommerce, Magento, Prestashop หรือ เว็บแอปแบบคัสต้อม เราสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ที่มีคุณภาพสูงพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันสำหรับคุณได้
เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอีคอมเมิร์ซโซลูชันสำหรับร้านค้าออนไลน์ ถ้าค้นคว้าหาข้อมูลซักหน่อย คุณจะพบว่ามีตัวเลือกที่เป็นไปได้จำนวนมากเลยที่เดียว แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีโซลูชันเพียงหนึ่งเดียวที่ดีที่สุด และแต่ละแบบก็มีทั้งข้อดีข้อเสียคละกันไป ทีมงานของเอาท์ซอร์สซิฟาย พร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยคุณในการเลือกโซลูชันที่เหมาะกับความต้องการของคุณ มีหลายเรื่องที่เราจะต้องนำมาพิจารณาด้วย ตัวอย่างเช่น ชนิดร้านค้าออนไลน์ จะต้องเป็นแบบคัสต้อม หรือจะมีเทมเพลตตัวไหนที่ใช้ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ปัจจัยสำคัญสองอย่างที่ต้องคิดถึงเสมอก็คือ งบประมาณ และ ความคาดหวังของคุณ
เราไม่ต้องการเสนอให้ใช้โซลูชันโฮสต์ที่ทำเสร็จแล้วเนื่องจากไม่ใช่จุดประสงค์ของเอเจนซี่ของเรา แพลตฟอร์มตัวสร้างร้านค้าออนไลน์ เช่น Shopifyนั้นใช้ได้ ถ้าเป็นเว็บไซต์แรกของคุณ ถ้าคุณแค่อยากลองแนวคิดของคุณหรือถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด ถ้าคุณมีงบที่จำกัด โดยแพลตฟอร์มแบบนี้จะเป็นรูปแบบธุรกิจการจ่ายบริการรายเดือน และก็จะมีธีมที่ออกแบบเรียบร้อยให้คุณเลือก เว็บไซด์จะถูกสร้างด้วยโซลูชันตามแบบที่เราเลือก และโฮสติ้งบนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ อย่างไรก็ตามโซลูชันสำเร็จรูปแบบนี้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่กล่าวอ้างกัน เพราะว่าคุณจะต้องใช้เวลามากพอสมควรไปกับการเรียนรู้ที่จะใช้แพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ ว่าจะเป็นทั้งการปรับรูปแบบร้านค้าและการนำเข้าสินค้าบนร้านค้าซึ่งถือว่าไม่ง่ายเลย และคุณต้องทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะดูดีและเป็นเว็บไซด์ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทฺธิภาพเหมาะสำหรับธุรกิจของคุณ แต่อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นเพียงแค่เว็บไซด์มาตรฐานที่มีฟีเจอร์ตามที่ผู้บริการจัดให้ ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปเหมือนร้านค้าออนไลน์อื่นๆทีมีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของเว็บไซด์แบบนี้ก็คือ การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับเสิร์ชเอนจิน (SEO) และการทำการตลาด ทำได้ค่อนข้างยาก
สิ่งที่ Outsourcify เสนอให้คุณพิจารณาก็คือโซลูชันแบบสามารถกำหนดได้เอง ออกแบบตามความต้องการของคุณ และถือว่าเป็นร้านค้าออนไลน์ของคุณอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์ของเราในการทำระบบอีคอมเมิร์ซ เราจะช่วยคุณกำหนดและสร้างแบรนด์ของคุณเอง การออกแบบเว็บแบบสามารถกำหนดได้เองของเราจะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณดูโดดเด่นขึ้นมา และให้คุณมีทุกอย่างที่คุณต้องการ ซึ่งรวมทั้ง SEO และการทำการตลาดที่เป็นของคุณเอง ดังนั้นแบรนด์ของคุณ ก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะเป็นร้านต้นแบบในตลาดการแข่งขันและยังสร้างรายได้ ให้คุณได้อย่างรวดเร็วด้วย
จากตัวเลือกหลากหลายที่มี เราขอนำเสนอเฉพาะเพียงโซลูชันแบบโอเพนซอร์ส เช่น WooCommerceMagento หรือ Prestashop นอกจากนี้ เราอยากแนะนำอย่างยิ่งการสร้าง Web App แบบคัสต้อมสำหรับร้านค้าของคุณ ซึงโดยทั่วไปแล้วจะสร้างจาก PHP เฟรมเวิร์ก อย่างเช่น Symfony โซลูชันทั้งหมดที่กล่าวมาจะใช้ภาษาโปรแกรมมิ่ง PHP ซึ่งถือว่าเชื่อถือได้และนักเขียนโปรแกรมเว็บของเรามีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญในการใช้ แต่อย่างไรก็ตาม โซลูชันแบบคัสต้อมก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ดีที่สุด WooCommerce ซึ่งสร้างบน WordPress ถือว่าเป็นโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับการทำร้านค้าออนไลน์ทั่วๆไป Magento หรือ Prestashop จะเหมาะกับร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มีความซับซ้อน และมีสินค้าจำนวนมากเป็นพันๆ ในขณะที่ โซลูชันแบบคัสต้อมถือว่าเป็นการตอบโจย์ที่ดีสำหรับโมเดลธุรกิจทีมีความพิเศษ หรือต้องมีฟีเจอร์ที่ต้องทำขึ้นเฉพาะสำหรับร้าน ตัวอย่างเช่น เราได้ทำร้านค้าออนไลน์ที่คุณสามารถค้นหาข้อมูลสิ่งที่คุณอยากขาย (เศษชิ้นส่วนของเครื่องยนต์) ไม่ใช่สิ่งที่อยากจะซื้อ หรือในกรณีหนึ่ง เป็นร้านค้าที่มีแนวคิดการโปรโมชันและการลดราคาที่มีรูปแบบเฉพาะของร้านเอง ซึ่งมีเพียงโซลูชันแบบคัสต้อมเท่านั้นที่ตอบโจทย์นี้ได้ (และลูกค้าก็ตัดสินใจเปลี่ยนจากการใช้ Prestashop ด้วยเหตุผลดังกล่าว)
UX และ UI ที่ยอดเยี่ยม: ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และการดีไซน์ของเว็บไซด์ธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเว็บไหนก็ตาม ควรจะเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจ มีการให้ข้อมูลที่ครบครัน และกระจ่างชัด เว็บไซด์เคยอัดแน่นไปด้วยเนื้อหา และทางเลือกมากมาย แต่จากการศึกษา ได้พิสูจน์แล้วว่าการออกแบบง่ายๆ ที่มีความชัดเจนต่อการนำไปใช้ ส่งผลที่ดีกว่า ไอคอนที่เหมาะสมและคำอธิบายควรจะถูกใช้เพื่อบอกว่ามีอะไรบ้างให้ชัดเจนบนเว็บไซด์
โครงสร้าง: ร้านค้าออนไลน์ที่ดีที่สุดควรจะมี ไซด์แมพ (แผนผังเว็บไซด์) ที่สอดประสานกัน โดยทั่วไปไซด์แมพไม่ควรที่จะบอกเพียงว่ามีสินค้าอะไรบ้าง แต่ควรจะมีข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญสำหรับลูกค้าผู้มาเยี่ยมชมว่ามีสินค้าอะไรลดราคาอยู่บ้าง พร้อมด้วยหัวข้อทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วย เนื้อหาคือสิ่งที่สำคัญต่อ SEO ที่มีประสิทธิภาพ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องโฟกัสในเรื่องการจัดหมวดหมู่ที่แตกต่างกันไป รวมทั้งมีชนิดของเนื้อหาที่หลากหลายเพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถของผู้ซื้อในการที่จะค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น จะเป็นการให้ข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับลูกค้า ถ้ามีการสร้างเพจเฉพาะสำหรับแต่ละหมวดหมู่ ผู้ผลิด แหล่งผลิต และวิธีการผลิต
นาวิเกชันที่เข้าใจง่าย: การท่องเว็บไซด์ควรจะเป็นสิ่งที่ง่าย เนื้อหาสามารถที่จะค้นหาได้ง่าย หรือค้นหาได้จากเมนู ดังนั้น ในบางครั้ง Mega Menu น่าจะเป็นโซลูชันที่เหมาะเมื่อร้านค้าออนไลน์นั้นมีโครงสร้างหมวดหมู่ที่ซับซ้อน
สมรรถนะที่ดีที่สุด: เว็บไซด์ธุรกิจออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม จะต้องมีเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีสมรรถนะสูง และความเร็วในระดับที่ดี ซึ่งนั้นเป็นงานสำหรับนักเขียนโปรแกรมของเราที่จะทำให้ให้โค้ดเบา และเพิ่มประสิทธิภาพขนาดของรูปภาพให้สูงขึ้น เราอยากให้คุณเชื่อใจเราในการโฮสติ้ง เราใช้ Managed Hosting บนเซิร์ฟเวอร์ของ Cloud ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
Shopping Cart ที่มีให้บริการ: การซื้อขายบนเว็บไซด์ของคุณควรจะเป็นอะไรที่ง่าย และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จริงๆแล้วเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จะต้องทำให้มั่นใจว่าลูกค้าจะไม่มีปัญหาติดขัด และสามารถที่จะสั่งซื้อสินค้าสำเร็จได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง
การรวมโซเชียลมีเดียเข้ากับระบบ: โซเชียลมีเดีย หรือสื่อสังคมออนไลน์ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ นี่ไม่ใช่เฉพาะเพียงร้านค้าออนไลน์แบบ B2C เท่านั้นแต่ยังรวมกรณีร้านค้าออนไลน์แบบ B2B ด้วย การเชื่อมต่อเว็บไซด์ของคุณกับโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Twitter Instragram จะสามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากให้คุณได้อย่างแน่นอน
